ผู้เขียน หัวข้อ: Bigbike อย่าคิดว่าแน่!..จนลืม Basic Course  (อ่าน 3 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 990
  • จำหน่ายเครื่องจักรอุตสาหกรรมและสินค้าอุตสาหกรรม
    • ดูรายละเอียด
Bigbike อย่าคิดว่าแน่!..จนลืม Basic Course
« เมื่อ: วันที่ 21 พฤศจิกายน 2024, 22:13:48 น. »
Bigbike อย่าคิดว่าแน่!..จนลืม Basic Course

รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ (Bigbike) หรือรถที่มีขนาดความจุเครื่องยนต์ตั้งแต่ 400 ซีซี ขึ้นไปตามหลักสากล ในปัจจุบัน สามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้นและมีผู้เริ่มสนใจซื้อมาขับขี่กันแพร่หลายมากขึ้น ด้วยความแรงทรงพลังและความสปอร์ตหรือเท่ในแบบที่ไบค์เกอร์หลายคนอยากจะขับขี่ จนอาจมองข้ามเรื่องการเรียนรู้การขับขี่รถใหญ่ที่ถูกต้องและปลอดภัย และมองข้ามทักษีการควบคุมรถที่ปลอดภัย หรือ Basic Bigbike โดยทาง ThaiHonda จัดอบรมให้ความรู้เพื่อให้ขับขี่ได้อย่างปลอดภัยที่สุด
 
จำเป็นหรอ ก็ขี่ได้เหมือนรถเล็กแหละ?
นั่นไง ความคิดแบบนี้ ประมาทแล้วหนึ่ง เพราะรถขนาดใหญ่มีน้ำหนักมากขึ้น เครื่องแรงขึ้น การควบคุมคันเร่งและเบรกรวมถึงการทรงตัวจะต้องฝึกมากขึ้น การขับขี่ความเร็วต่ำ ขับขี่ความเร็วสูง การเลี้ยวในที่แคบ ฝึกการทรงตัวเมื่อต้องเลี้ยวในที่แคบ ๆ และความเร็วต่ำ
 

ทริคในการควบคุมบิ๊กไบค์ความเร็วต่ำแบบเกียร์ 1
 
หลายคนบอกง่าย ๆ แต่ความจริงแล้วบางสภานการณ์อาจเจอทางแคบมาก ๆ ไม่ถึง 90 ซม. และต้องเลี้ยงความเร็วแบบคลาน ๆ ซอกแซกไป ถ้าไม่ฝึกควบคุมคันเร่งและเบรกให้ชำนาญ อาตเกิดอันตรายได้ การขับขี่บิ๊กไบค์ทางแคบ ๆ ความเร็วต่ำ ต้องใช้เกียร์ 1 และ ห้ามใช้เบรกหน้าเด็ดขาด ให้ใช้เบรกเท้าเท่านั้น เพราะจะทำให้เสียการบาลานซ์หรือทรงตัว และล้มได้ ยกเว้นจำเป็นต้อวค่อย ๆ เคลื่อนตัวช้ามาก ๆ อาจใช้เท้าช่วยพยุงด้วย

การเลี้ยวที่แคบความเร็วต่ำ ๆ อาจใช้เกียร์ 2 และเน้นใช้เบรกหลังช่วย โดยไม่จำเป็นต้องคอยกำคลัตช์ตลอดเวลา ให้กำต่อเมื่อรถจะดับ เพื่อให้รวบคุมรวามเร็วและทิศทางได้อย่างสะดวกมากขึ้นกว่าต้องคอยกำคลัตช์บ่อย ๆ ทริคสำคัญในการควบคุมรถในทางแคบ ๆ คือ การใช้ช่วงขาท่อนบนหนีบตัวรถและให้นั่งชิดถังน้ำมัน โดยการใช้ลำตัวช่วงล่างช่วยบาลานซ์น้ำหนักและถ่วงให้จุดศูนย์รถต่ำลง ให้การเข้าโค้งได้ง่ายขึ้น
 
เคยไหมจะเลี้ยวกลับแต่ล้มแปะ!!!
ผมว่าหลายคนคงได้เคยเจอเคสนี้ ผมก็เช่นกันครับ คือ เมื่อจะเลี้ยวกลับ ต้องคอยขยับรถไปเรื่อย ๆ และหักล้อเลี้ยวไปด้วย แต่ก้จำเป็นต้องคอยเบรกไปด้วย จึงใช้เบรกล้อหน้า เพราะง่ายสุด แต่กลับเกิดอาการรถหัวทิ่มเกือบจะล้ม !!

จากการได้เข้าครอสฝึกครั้งนี้ การกลับรถก็เป็นจุดสำคัญในการขับขี่ในชีวิตประจำวันเช่นกัน โดยเฉพาะรถบิ๊กไบค์ เมื่อต้องการกลับรถลักษณะนี้ ควรใช้เท้าขวาเป็นัวควบคุมความเร็วหรือว่าเบรกแทนการใช้ล้อหน้า นอกจะจะช่วยเรื่องการทรงตัวแล้ว ยังลดอาการหน้าทิ่มไม่ให้รถล้มได้อีกด้วย และจำเป็นต้องฝึกบ่อย ๆ เพราะการพยุงรถต้องใช้เท้าซ้ายเป็นหลัก
 
ตามองไกล-ขาหนีบและแนบตัว

สายตาและศีรษะต้องมองไปทิศทางที่จะมุ่งหน้า ไกล ๆ มองล่วงหน้า ไม่ควรมองแค่ระยะใกล้ตัวเท่านั้น โดยเฉพาะกานเข้าโค้งต่าง ๆ มองที่ปลายโค้งไกล ๆ และหันศีรษะตามไปพร้อม ๆ กัน เพื่อให้ลำตัวช่วยในกานถ่ายเทน้ำหนักให้รถเข้าโค้งแคบ ๆ ในความเร็วต่ำได้ง่ายขึ้น ส่วนหัวเข่าต้องชิดแนบกับตัวรถ ปลายเท้าชี้ตรงข้างหน้า และเท้าซ้ายควรอยู่บนคันเกียร์ เท้าขวาพร้อมใช้เบรกเสมอ เพื่อให้การทรงตัวดีขึ้น ไม่ควรกางขาหรือเข่า และแขนไม่หุบชิดตัวหรือกางเกินไป ท่านั่งต้องหลวม ๆ สบาย ๆ แขนและศอกงอเล็กน้อย

การจัดท่านั่งที่เหมาะสมจะช่วยให้ร่ายการสามารถควบคุมรถได้ดี มีช่วงยืดยุบตัวหรือช่วงแขนที่เคลื่อนไหวได้เมื่อต้องการจะเลี้ยวก็จะยิ่งทำให้หารบังคับแฮนด์ได้อย่างอิสระและปลอดภัยมากกว่าการนั่งผิดท่าและจัดการวางเท้าหรือแขนไม่ได้พอ นอกจากนี้ให้ปรับท่านั่งไปตามลักษณะหรือประเภทของรถนั้น ๆ


คุณเบรกเป็นมั้ย?
 
ก่อนจะเบรกต้องเริ่มจากออกตัวให้ปลอดภัยก่อน เช่น การมองด้านหลังทางขวาก่อนออกรถทุกครั้ง เพื่อป้องกันรถที่มีจากทางขวาเสมอ การเบรกแม้จะดูพื้นฐานแต่การใช้เบรกในบิ๊กไบค์อาจมีเทคนิคปลอดภัยมากกว่าที่คิด!!  เริ่มด้วยการเฉลี่ยน้ำหนักเบรกหน้าหลังต้องฝึกฝนบ่อย ๆ ด้วยรถที่ตัวใหญ่น้ำหนักมากกว่ารถเล็กแน่ ๆ ทำให้การเบรกนั้นจะต้องคุ้นเคยและใช้งานได้ปลอดภัยจริง ๆ ด้วย โดยการเริ่มฝึกเบรกในจุดที่กำหนด ด้วยกานกำเบรกหน้าทั้ง 4 นิ้ว สัดส่วนราว ๆ 60% เบรกเท้าจะน้อยกว่าเพียง 40% หรืออาจน้อยกว่านั้น การเบรกจะต้องเอนตัวไปด้านหลังให้บาลานซ์กำรถเวลายถบตัวไปด้านหน้าด้วย
 
กรณีนี้เป็นการฝึกเบรกแบบฉุกเฉน จนรถหยุดนิ่ง เหมือนมีอะไรตัดหน้าจึงไม่ต้องสนใจการตบเกียร์ลง เพียงคอยกำคลัตช์ก่อนจะหยุดสนิทเท่านั้น แล้วค่อยเปลี่ยนเกียร์ 1 ออกตัวต่อไป การฝึกนี่เป็นกสรทำความคุ้นเคยและควบคุมรถเมื่อต้องเบรกแรง ๆ นั่นเองครับ และการออกตัวก็สำคัญเช่นกันต้องโน้มตัวมาด้านหน้าเล็กน้อยเพื่อชดเชยการเอนตัวไปด้านหลังของรถ เพื่อจัดบาลานซ์นั่นเองครับ ซึ่งการฝึกแบบนี้จะช่วยให้รู้จักระยะเบรกและการกะระยะรวมถึงน้ำหนักเท้าและมือในการใช้เบรกอย่างถูกต้องจนเกิดความชำนาญ
 

การยกรถ
การยกรถที่ถูกต้องนั้น นอกจากผู้ขับขี่จะปลอดภัยมาก่อนแล้ว การยกรถควรทำตามขั้นตอนที่ปลอดภัย เมื่อรถล้มการยกรถขึ้นจะต้องมีท่าทางที่ถูกต้องและปลอดภัยต่อตัวผู้ยก โดยต้องระวังการใช้หลังออกแรงมากเกินไป อาจทำให้บาดเจ็บได้ โดยวิธีที่ถูกได้แก่

ดับหรือปิดสวิตช์กุญแจ แม้ปุ่มฉุกเฉินจะปิดแล้วก็ตามพร้อมตรวจสอบพื้นที่รอบ ๆ ว่ามั่นคงในการยืนหรือไม่
ยืมฝั่งที่รถล้มและจับแฮนด์ทั้ง 2 ฝั่งพร้อมกำเบรดหน้าเอาไว้เสมอ (หากรถล้มฝั่งที่ไม่มีขาตั้งให้กางขาตั้งขึ้นก่อน)
ใช้สะโพกและหน้าขาช่วงบนดันและใช้การถ่ายน้ำหนักจากขาค่อย ๆ ขยับดันรถขึ้น
ตั้งรถให้เรียบร้อยโดยตลอดการยกรถขึ้นต้องกำเบรกหน้าตลอด
ตรวจสอบความเสียหายของรถ ว่าขับขี่ได้หรือไม่

 
4 เช็คก่อนขับขี่

ย้ำอีกครั้งกับการเริ่ม Basic ของการขับขี่รถจักรยานยนต์ทุกแบบทั้ง รถเล็กรถใหญ่ สกู้ตเตอร์หรือรถมีและไม่คลัตช์ ก็จะต้องใช้ 4 เช็คนี้ก่อนขับขี่ ทุกครั้ง เพื่อให้รับรู้ถึงสภาพตัวรถให้ขับได้อย่างปลอดภัย
 
1. ตรวจสอบนะดับน้ำมัน
ก่อนจะเดินทางการตรวจเช็คระดับน้ำมันสำัญมาก เพื่อเป็นการคำนวนหรือประมาณการเดินทางให้ถึงจุดหมายได้อย่างสบายใจ หรืออาจต้องวางแผนในการแวะเติมน้ำมัน
2. ระบบเบรก
ตรวจเช็คโดยการเข็นรถแล้วลองกำเบรกหรือขึ้นคร่อมรถเข็นรถแล้วลองทดสอบเบรกว่าหยุดสนิทหรือไม่
3. ระบบไฟส่องสว่าง
ตรวจดูระบบไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว ไฟในแบตฯ ไฟบนมาตรวัดว่าทำงานปกติหรือไม่
4. สภาพยาง
ตรวจความแข็งอ่อนของลมยางด้วยการใช้เล็บจิกหรือกดลงที่แก้มยาง ให้ตึง ๆ มือ หากกดจนยุบมากไปแสดงว่าลมยางอยู่ระดับต่ำ
 
ท่าขับ 7 จุด
 
1.สายตา มองไกลมองทิศทางที่จะไป
2.ไหล่ ผ่อนคลาย ไหล่ฝั่งที่เลี้ยวระดับต่ำกว่าไหล่ตรงข้าม
3.แขน ย่อนผ่อนคลาย ขยับอิสระได้ ศอกหลวม ๆ ไม่ชิดลำตัวหรือกางเกินไป
4.มือ นิ้วโป้งล็อคใต้แฮนด์ ข้อมือห้ามต่ำกว่าฝ่ามือ
5.เอว สะโพก นั่งชิดถังน้ำมันกรณีรถสปอร์ต หรือถ่ายเทน้ำหนักกลาง ๆ รถ ตามสรีระแต่ละคน
6.เข่า ชิดหรือหนีบกับตัวรถ
7.ปลายเท้า ชี้ตรงไม่กางออก เวลาเปลี่ยนเกียร์แล้วเอาเท้าวางปกติไม่สอดใต้คันเกียร์

หวังว่านักบิดทั้งมือใหม่มือเก่าจะหันมาสนใจการฝึกเบื้องต้นในการขับรถบิ๊กไบค์ หรือจะรถเล็ก สกู้ตเตอร์ก็จำเป็นเช่นกัน เพราะความปลอดภัยสำคัญกว่าความประมาท ส่วนใครสนใจจะลงสมัครเรียนครอสพิเศษนี้ มีให้ตั้งแต่ Basic/Skill/Pro-Advance แล้วจะรู้ว่าที่เราคิดว่า "ขี่เป็นแล้วไปเรียนทำไมนั้น" หลายคนต้องมีล้มแปะในสนามกันบ้างแน่ ๆ