เมื่อบ้านสร้างไว้นานๆ รายการซ่อมแซมก็เริ่มทยอยให้เจ้าของบ้านหันมาใส่ใจดูแลก่อนที่จะพังบานปลายกลายเป็นปัญหาแบบเสียน้อยเสียยาก แต่แท้จริงแล้วไม่จำเป็นต้องรอให้บ้านส่งสัญญาณเตือนก็ได้ สามารถดูแลป้องกันความเสียหายได้ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าอยู่อาศัย เพื่อให้บ้านมีความแข็งแรงทนทาน มีชีวิตชีวา ไม่เกิดความเสียหายจนเป็นอันตรายกับผู้อยู่อาศัย ซึ่งวันนี้นำเอาวิธีดูแลบ้านอย่างไรให้แข็งแรงปลอดภัยมาฝากจะมีวิธีใดบ้างมาดูกัน
5 วิธีดูแลบ้านให้แข็งแรงทนทาน และปลอดภัยกับผู้อาศัย
1. หมั่นตรวจหลังคารั่วซึม
การเริ่มดูแลบ้านที่หลังคาจะทำให้เห็นภาพชัดที่สุด เพราะหากเกิดรอยรั่วซึมจากหลังคา นั่นแปลว่าข้าวของทรัพย์สินในบ้านก็จะได้รับความเสียหายไปตามลำดับ โดยจุดที่เกิดการรั่วซึมของหลังคา ส่วนใหญ่เป็นปัญหาจากโครงสร้าง เช่น
ความลาดชันไม่พอทำให้เวลาฝนตกจะมีน้ำไหลย้อนกลับเข้าไปใต้แผ่นกระเบื้องหลังคา
การมุงหลังคาไม่สนิท
การติดตั้งรางน้ำที่ขนาดไม่สัมพันธ์กับพื้นที่หลังคา
การมีใบไม้ เศษกิ่งไม้ ร่วงกองอยู่บนหลังคาสะสมเป็นจำนวนมาก ไม่สามารถระบายได้อย่างสะดวก
ปัญหาเหล่านี้เจ้าของบ้านสามารถดูแล ป้องกัน และแก้ไขได้ด้วยตนเอง กับอีกส่วนที่มีระดับความยาก ต้องมีช่างที่เชี่ยวชาญจากบริษัทรับสร้างบ้านมาช่วยดูแลจะทำให้จบปัญหาไปได้
2. ดูแลระบบไฟฟ้าและปลั๊กไฟอย่างสม่ำเสมอ
โดยปกติทั่วไปสายไฟฟ้าจะมีอายุการใช้งานประมาณ 7-8 ปี เมื่อพบว่าฉนวนที่หุ้มสายไฟเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองและเริ่มกรอบแตก ก็สมควรที่จะเปลี่ยนสายไฟใหม่ โดยไม่ต้องรอให้หมดอายุก่อน ซึ่งในแต่ละจุดการซ่อมบำรุงดูแลจะไม่เหมือนกัน
นอกจากนี้ยังควรตรวจเช็กอุปกรณ์ว่าใช้สายดินหรือไม่ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อการใช้ไฟฟ้า โดยอุปกรณ์ไฟฟ้าบางประเภทจะมีปลายด้านหนึ่งต่อลงดิน ส่วนปลายอีกด้านหนึ่งจะต่อเข้ากับวัตถุหรือเครื่องใช้ไฟฟ้า ดังนั้นจึงควรมีอุปกรณ์ป้องกันการลัดวงจร เช่น ฟิวส์ หรือเบรกเกอร์ เพื่อป้องกันปัญหาที่จะทำให้เกิดเพลิงไหม้ หรือเป็นอันตรายกับผู้ใช้งานได้
3. ดูแลระบบน้ำประปา
ถือเป็นระบบพื้นฐานที่มีความสำคัญรองจากไฟฟ้า เพราะแม้เราจะระวังหลังคาไม่ให้รั่วซึมได้ แต่ก็ยังมีระบบน้ำประปาหากรั่วซึมขึ้นมาได้ก็พร้อมสร้างความเสียหายกับบ้านได้
สิ่งที่ต้องระวังคือ จุดข้อต่อต่างๆ หัวก๊อก น้ำหยด ซึ่งการเลือกผลิตภัณฑ์ต้องสัมพันธ์กับการใช้งาน เช่น ท่อนำส่ง ที่สามารถรองรับแรงดันจากปั๊มได้ เพราะหากมีการรั่วไหลแตกร้าวซึ่งอาจเกิดขึ้นที่ชั้นสองของบ้าน นั่นหมายถึงการรื้อฝ้า ซ่อมแซมเสียเวลา รวมถึงเป็นการสะสมความชื้นภายในบ้าน ส่งผลต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย
การป้องกันปัญหานี้เจ้าของบ้านสามารถทำได้เบื้องต้นโดยการสังเกตจุดน้ำหยด ปิดก๊อกให้สนิท หรือสังเกตบิลค่าน้ำ หากมีค่าใช้จ่ายมากกว่าปกติ ให้ตั้งข้อสันนิษฐานการรั่วไหลและติดต่อผู้เชี่ยวชาญ หรือช่างจากบริษัทรับสร้างบ้านเข้ามาช่วยตรวจสอบและแก้ปัญหาให้
บ้านจัดสรรโคราช วิธีดูแลบ้านให้แข็งแรงทนทาน และปลอดภัยกับผู้อาศัย อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://homes-realestate.com/