ผู้เขียน หัวข้อ: Covid-19 : 4 สายพันธุ์อันตรายในไทยที่ต้องระวัง!  (อ่าน 76 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 775
  • จำหน่ายเครื่องจักรอุตสาหกรรมและสินค้าอุตสาหกรรม
    • ดูรายละเอียด
Covid-19 : 4 สายพันธุ์อันตรายในไทยที่ต้องระวัง!
« เมื่อ: วันที่ 20 สิงหาคม 2024, 17:51:34 น. »
Covid-19 : 4 สายพันธุ์อันตรายในไทยที่ต้องระวัง!

โอไมครอน (Omicron) โควิดสายพันธุ์น่ากังวล แพร่เชื้อเร็ว COVID สายพันธุ์ Omicron (B.1.1.529) สายพันธุ์ระดับที่น่ากังวล สามารถแพร่กระจายได้ง่ายและไวขึ้นกว่าสายพันธุ์เดลต้า!

แพร่ระบาดเร็วกว่าสายพันธุ์อื่น 2-5 เท่า หลบภูมิคุ้มกันเก่ง แม้ว่าจะเคยติดโควิดมาก่อนแล้ว ก็สามารถติดสายพันธุ์นี้ซ้ำได้ อาการใหม่! โควิดสายพันธุ์โอมิครอน อาการเป็นอย่างไร?

คุณหมอเตือน! แนวทางป้องกันโควิดกลายพันธุ์ รับมือสายพันธุ์โอมิครอน รีบฉีดวัคซีนเข็ม 3 ด่วน! ฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 ฉีดเมื่อไรดี?

ทำความรู้จัก “ชื่อใหม่” ไวรัสโควิดกลายพันธุ์

องค์กรอนามัยโลก (WHO) ได้เปลี่ยนชื่อเรียกไวรัสโควิดกลายพันธุ์ จากเดิมที่เรียกตามชื่อประเทศเป็นอักษรกรีก เพื่อลดการกล่าวโทษประเทศที่พบครั้งแรก สายพันธุ์น่าวิตก 4 สายพันธุ์ (Varients of Concern)

สายพันธุ์อื่นๆ ที่ต้องเฝ้าระวัง (Varients of Interest) 6 สายพันธุ์

ชื่อเดิม                   ชื่อทางวิทยาศาสตร์           ชื่อใหม่
สายพันธ์ุแคลิฟอร์เนีย   B.1.427 / B.1.429   เอปซิลอน
สายพันธุ์บราซิล            P.2                           เซต้า
–                           B.1.525                   อีต้า
สายพันธุ์ฟิลิปปินส์           P.3                           ทีต้า
สายพันธุ์สหรัฐ           B.1.526                   ไอโอต้า
สายพันธุ์อินเดีย           B.1.617.1                    แคปป้า

โดยองค์กรอนามัยโลกระบุว่า ชื่อเรียกใหม่ของไวรัสโควิดกลายพันธุ์ ไม่ใช่การแทนที่ชื่อทางวิทยาศาสตร์ที่มีอยู่แล้ว แต่เป็นการตั้งชื่อเพื่อการสื่อสารที่ง่ายขึ้น เนื่องจากชื่อวิทยาศาสตร์อาจสื่อสารได้ยาก และอาจทำให้การสื่อสารคลาดเคลื่อน อีกทั้งยังเพื่อลดการปฏิบัติหรือตีตราประเทศที่พบไวรัสโควิดกลายพันธุ์เป็นครั้งแรกอีกด้วย

Covid-19 4 สายพันธุ์อันตรายในไทยที่ต้องระวัง!

เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2564 องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกมาประกาศเปลี่ยนการเรียกชื่อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ โดยมีชื่อเรียกและความรุนแรงของแต่ละสายพันธุ์ดังต่อไปนี้

▪ สายพันธุ์แกมม่า P.1
⚠️ รุนแรงกว่าสายพันธุ์อื่นๆ เลี่ยงภูมิคุ้มกัน ลดประสิทธิภาพวัคซีน

▪ สายพันธุ์อัลฟ่า B.1.1.7
⚠️ เลี่ยงภูมิคุ้มกันได้ดีที่สุด แพร่กระจายง่ายกว่าสายพันธุ์อื่น 40-70%

▪ สายพันธุ์เดลต้า B.1.617
⚠️ ระบาดเร็ว แพร่เชื้อง่าย หลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้

▪ สายพันธุ์เบต้า B.1.351
⚠️ ระบาดรวดเร็ว แพร่เชื้อไวขึ้นราว 50% ลดประสิทธิภาพแอนติบอดี้


ระวัง! โควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าพลัส (Delta Plus)

โควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าพลัส (Delta Plus) อาจมีความรุนแรงกว่าเดิม เนื่องจากหลบภูมิคุ้มกันได้ดี

จากการแถลงของกระทรวงสาธารณสุขอินเดีย เรื่องการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า (B.1.617.2) ไปเป็นสายพันธุ์ใหม่ ที่เรียกว่าเดลต้าพลัส (AY.1) โดยคาดว่าเกิดจากการกลายพันธุ์แบบ K417N ซึ่งเป็นการกลายพันธุ์ในโปรตีนหนามของไวรัส ซึ่งความแตกต่างระหว่างโควิด-19 สายพันธุ์ Delta Plus VS Delta มีดังต่อไปนี้

อย่างไรก็ตามในช่วงการแพร่ระบาดของ Covid-19 เช่นนี้ ควรสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน และหมั่นล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจล หรือสบู่บ่อยๆ หลีกเลี่ยงการไปอยู่ในสถานที่แออัด ไม่ปลอดโปร่ง เพื่อป้องกันตนเองจากเชื้อโควิด-19

เฝ้าระวัง! Covid-19 สายพันธุ์ใหม่ “แลมบ์ดา” (Lampda)
สายพันธุ์อันตรายกว่าเดลต้า แพร่เชื้อเร็ว ต้านภูมิคุ้มกัน!!!

Covid-19 สายพันธุ์แลมบ์ดา (Lampda) หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ “C.37” พบครั้งแรกที่ประเทศเปรู และระบาดในประเทศแถบภูมิภาคละตินอเมริกา

🔴 โดยทาง WHO จัดให้เป็นสายพันธุ์ที่ต้องให้ความสนใจ (Variants of Interest; VOI) เนื่องจากคาดว่า Covid-19 สายพันธุ์แลมบ์ดา (Lampda) นี้
⚠️ ความรุนแรงเมื่อติดเชื้อมากกว่าสายพันธุ์อื่น
⚠️ แพร่เชื้อง่ายกว่าสายพันธุ์อื่น
⚠️ เลี่ยงประสิทธิภาพวัคซีนได้ดีมากขึ้น

(แต่จากการวิจัยของสหรัฐฯ พบว่า วัคซีน mRNA ยังสามารถป้องกันสายพันธุ์แลมบ์ดาได้ดีอยู่)